มาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาและผลิตหลอด*LED* ได้แก่

1.มาตรฐาน IESNA LM-80:APPROVED METHOD FOR MEASURING LUMEN DEPRECIATION OF LED LIGHT SOURCES

มาตรฐานฉบับนี้ได้กำหนดขั้นตอนการทดสอบเพื่อกำหนดค่าของ LUMEN Maintenance ของหลอด*LED* วิธีการกำหนดมาตรฐานไม่ได้เป็นการวัดโดยตรงจากโคมไฟฟ้าพร้อมหลอดเนื่องจากหลอด*LED*มีความไวต่ออุณหภูมิสูง ดังนั้นมาตรฐาน LM-80จึงกำหนดให้ต้องทดสอบที่อุณหภูมิต่างกัน 3 อุณหภูมิ ได้แก่ 50,85 องศาเซลเซียส และอีกอุณหภูมินึงลำดับที่3ให้ผู้ผลิตเลือกเอง

เนื่องจากหลอด*LED* จะมีอายุเกิน 50,000 ชั่วโมงหรือเท่ากับ 5.6ปี ดังนั้นมาตรฐาน TM-21:LUMEN Depreciation Lifetime Estimation Method for *LED* Light Sources จึงได้ใช้วิธีเทียบบัญญัติไตรยางค์ หรือ Extrapolation จากข้อมูลในช่วงเวลาสั้นเพื่อคาดการค่ากำลังการส่องสว่าง(LUMEN OUTPUT)ของหลอด@LEDในช่วงเวลาหลายหมื่นชั่วโมง โดยจะวัดค่ากำลังการส่องสว่างทุกๆ1,000ชั่วโมง จนถึงอย่างน้อย 6,000ชั่วโมง ค่ากำลังส่องสว่างที่ค่อยๆลดลงจำนวน6ค่านี้ จะถูกนำมาพล็อตกราฟ และเทียบบัญญัติไตรยางค์ ให้ได้ค่ากำลังส่องสว่างที่ 36,000 ชั่วโมง แต่ถ้าทดสอบหลอด@LEDที่เวลา10,000ชั่วโมงก์สามารถเทียบบัญญัติไตรยางค์ เพื่อคาดการณ์ค่ากำลังส่องสว่างได้จนถึง60,000ชั่วโมง เมื่อค่ากำลังส่องสว่างลดลง30%ก์แสดงว่าหลอด*LED*ดังกล่าวหมดอายุการใช้งาน

2.มาตรฐาน IESNA LM-79:APPROVED METHOD FOR THE ELECTRICAL AN PHOTOMETRIC TESTING OF SOLID STATE LIGHTING DEVICES: LM-79

ได้กำหนดวิธีการทดสอบที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติทางไฟฟ้า การส่องสว่าง การกระจายความเข้มของแสงและคุณสมบัติของสีของแสง

ผลการทดสอบการกระจายและความเข้มของแสงตามมาตรฐาน LM-79 จะแสดงในรูปกราฟแบบ TUBULAR หรือแบบ POLARก์ได้ ส่วนผลการทดสอบด้านสีของแสงสามารถแสดงผลในรูปของกราฟที่เรียกว่า SPECTRUM POWER DISTRIBUTION (SPD) ผู้ใช้สามารถประเมินปริมาณแสงที่ความยาวคลื่นที่ตาคนเรามองเห็น(ในหน่วยของ MILLIWATT PER NANOMETER หรือ mW/nm)

3.มาตรฐาน ANSI C78.377-2008:SPECIFICATION FOR CHROMATICITY OF SOLID-STATE LIGHTING PRODUCT

เป็นมาตรฐานที่เกียวข้องกับคุณสมบัติสีของแสงจากหลอด@LED หลอดไฟฟ้าทั่วไปที่ใช้งานอยู่ขณะนี้จะมีสีที่เรียกว่า UNSATURATED COLORS ขณะที่สีของแสงจากหลอด@LED เป็นชนิด SATURATED COLORS เช่นสีแดงเกิดจากชั้นผลึก ALUMINIUM GALLIUM ARSENIDE (AlGaAs) สีนำเงินเกิดจากชั้นของผลึก INDIUM GALLIUM NITRIDE (InGaN) สีเขียวเกิดจากชั้นของผลึก ALUMINIUM GALLIUM PHOSPHIDE (AlGaP)

ที่มา: http://ledstandard.blogspot.com/2013/09/iesna-lm-80-iesna-lm-79-ansi-c78377-2008.html